"ปลาฟูฟู ......อูหูววววววน่ากิน"

                      ปลาฟู เนื้อฟูกรอบ กินเป็นเครื่องเคียงน้ำพริก ส้มตำ ยังสามารถนำไปทำน้ำยำแบบไทย เป็นยำปลาดุกฟู เป็นเมนูเด็ดของปลาฟูโดยทำจากเนื้อปลาดุกย่างหรือปลาอื่นๆ ที่สามารถนำมาทำเป็นปลาฟูได้เช่นกัน เช่น ปลาสลิด ปลาช่อน ปลาสำลี เป็นต้น หลักการทำปลาฟูคือนำปลาไปทำให้สุกด้วยวิธีการย่างหรือนึ่ง แล้วนำมาแกะเอาแต่เนื้อปลา ยีเป็นชิ้นเล็กๆ หรือสับ โดยจะผสมเกล็ดขนมปังเล็กน้อยไปกับเนื้อปลา เกล็ดขนมปังจะช่วยให้เนื้อปลาแห้งเร็ว ไม่แฉะ ทอดแล้วเนื้อปลาจะฟูดี อีกทั้งยังช่วยเติมปริมาณปลาฟูอีกด้วย ข้อสำคัญต้องนำผึ่งให้แห้งหมาดเท่านั้น อย่าผึ่งนานจนแห้ง เมื่อนำไปทอดจะแข็งและไม่ฟูเท่าที่ควร

                        การทอดปลาฟู ควรตั้งกระทะโดยใช้ไฟสูง น้ำมันต้องร้อนได้ที่ในทุกครั้งที่ทอด สังเกตุได้จากผิวหน้าจะนิ่งไม่เป็นคลื่น เมื่อใส่เนื้อปลาลงไปจะฟูขึ้นมาทันที เวลาทอดให้โรยเนื้อปลาใส่ลงไปทีละน้อย ทอดจนฟูเต็มกระทะและเมื่อเนื้อปลาเหลืองทั่วให้ตักขึ้นทันที หลังจากตักขึ้นเนื้อปลาจะเหลืองเข้มอีกเล็กน้อย แต่ถ้าทอดต่อไปเนื้อปลาจะไม่ฟูกรอบ ปลาฟูนำไปรับประทานเป็นเครื่องเคียงกับน้ำพริกลงเรือ ส้มตำ ข้าวผัด หรือจะทำเป็นยำก็อร่อย เข้ากันดี เมื่อนำปลาฟูไปประกอบอาหารแล้วควรรับประทานทันที ถ้าทิ้งไว้นานเนื้อปลาจะไม่ฟูกรอบ

                         เลือกใช้น้ำมันสำหรับทอดที่มีอุณหภูมิสูง จะทำให้ทอดง่ายไม่เกิดควัน ได้แก่ น้ำมันปาล์ม น้ำมันข้าวโพด   ถ้าใช้น้ำมันถั่วเหลือง เวลาทอดจะอุณหภูมิจะไม่ร้อนพอ และน้ำมันจะกลายเป็นควัน

                                วิธีสังเกตว่าอาหารที่ทอดสุกหรือยัง ให้สังเกตฟองอากาศที่เกาะอยู่รอบๆ อาหาร หากอาหารเริ่มสุกฟองอากาศที่เกาะอยู่รอบๆ จะหมดไป อาหารจะมีน้ำหนักเบาลงและลอยตัวขึ้นอยู่บนผิวหน้าของน้ำมัน

                          ไม่ควรทอดนานเกินไปจะทำให้ปลาฟูอมน้ำมัน ระดับความร้อนของน้ำมันที่ใช้ทอดควรมีความร้อนสูง เมื่อทอดในน้ำมันที่ร้อนได้ที่จะทำให้อาหารกรอบและไม่อมน้ำมัน

ขอขอบคุณข้อมูลดีจาก www.teenee.com